อีทีเอฟ (ETF) คืออะไร?
- DNA Trader
- 4 ต.ค. 2562
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 8 ต.ค. 2562
หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า "Exchange Traded Fund" เป็นกองทุนเปิดที่ซื้อขายสะดวกเหมือนหุ้น ใช้เงินลงทุนน้อย ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายต่ำ อีกทั้งยังลงทุนง่าย ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์หลักทรัพย์รายตัว เพียงแค่เข้าใจสภาวะตลาด หรือแนวโน้มของหลักทรัพย์ที่กองทุน ETF เข้าไปลงทุน ก็สามารถตัดสินใจลงทุนได้

ETF (Exchange Traded Fund)
ETF เป็นกองทุนเปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และสามารถซื้อขายกันเหมือนหลักทรัพย์ตัวหนึ่ง ดังนั้นจึงมีสภาพคล่องไม่ต่างจากหุ้นทั่ว ๆ ไป ที่สามารถซื้อขายได้ตลอดวัน โดย ETF จะมีลักษณะคล้ายกับกองทุนรวมทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น... การที่มีผู้บริหารกองทุนมืออาชีพคอยดูแลบริหารกองทุนให้อย่างเป็นระบบ ใช้เงินลงทุนน้อย แต่สามารถกระจายความเสี่ยงได้มาก รวมถึงการมีกลไกในการปกป้องผู้ถือหน่วยลงทุน
ETF เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในวงการตลาดทุนในต่างประเทศ จากการศึกษาโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่ามูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการของกองทุน ETF ทุกกองทุนทั่วโลกรวมกัน มีอัตราการเติบโตแบบสะสม (Compound Annual Growth Rate) ถึงประมาณร้อยละ 70 หรือเกือบจะเท่าตัวทุกปีตั้งแต่ปี 1993 และปัจจุบันมีมูลค่าถึง 613,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทย 21 ล้านล้านบาท (ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2550) นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย เช่น เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย และจีน ก็มีการจัดตั้งและซื้อขายกองทุน ETF กันแล้ว
จุดเด่นสำคัญของกองทุน ETF ที่แตกต่างจากกองทุนรวมประเภทอื่น ๆ
• ซื้อขายราคา Real Time ไม่ต้องรอลุ้นราคากองทุนทุกสิ้นวัน ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุน ETF โดยผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (Brokers) ได้ในราคาและเวลาที่ต้องการ (Real Time) โดยไม่จำเป็นต้องรอราคาสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ต่อหน่วย ณ สิ้นวันทำการ เหมือนกับการซื้อขายกองทุนเปิดที่ไม่ใช่หลักทรัพย์จดทะเบียน ซึ่งวิธีดังกล่าวเอื้อประโยชน์เพิ่มเติมอื่นๆ ให้กับนักลงทุนด้วย เช่น การกำหนดราคาซื้อขายล่วงหน้า (Preset Price) การขายชอร์ต (Short Sell) การหยุดการขาดทุน (Stop Lost) การซื้อขายทางอินเตอร์ที่บริษัทหลักทรัพย์ต่างมีไว้บริหารและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ
• ซื้อง่ายขายคล่อง บลจ. ผู้ออกกองทุน ETF จะมีการแต่งตั้งผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) เพื่อทำหน้าที่เสนอซื้อและเสนอขายหน่วยลงทุนของ ETF ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุน ETF ได้ตลอดเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ
• เป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยง ตามที่ได้กล่าวไปแล้วว่าการลงทุนในกองทุน ETF นั้น มี นโยบายการลงทุนที่เลียนแบบหรือล้อกับดัชนีที่ถูกนำมาใช้ในการอ้างอิง โดยสามารถอ้างอิงกับดัชนีได้หลากหลายประเภท เช่น ดัชนีราคาหุ้น ดัชนีราคาตราสารหนี้ ดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ฯลฯ จึงช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้เป็นอย่างดี เพราะมีการกระจายการลงทุนไปยังกลุ่มหลักทรัพย์หลายตัวหรือหลายอุตสาหกรรม ซึ่งจะแตกต่างจากการลงทุนของกองทุนรวมทั่วไป ที่เป็นการเลือกลงทุนในหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์รายตัวแต่ละประเภทตามที่นโยบายการลงทุนกำหนดไว้
• ได้ผลตอบแทนตามตลาด ค่าบริหารจัดการต่ำ กองทุน ETF ส่วนใหญ่มีนโยบายการบริหารจัดการลงทุนในเชิงรับ (Passive Management Strategy) ที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหรือราคาของสินทรัพย์ที่กองทุนใช้อ้างอิงมากที่สุด ไม่ได้เป็นการบริหารจัดการลงทุนในเชิงรุก (Active Management Strategy) เพื่อเอาชนะตลาดเหมือนกองทุนรวมส่วนใหญ่ จึงทำให้ ETF มีค่าใช้จ่ายตลอดจนค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการที่ต่ำกว่ากองทุนรวมทั่วไป
ประเภทของกองทุน ETF
เนื่องจากกองทุน ETF เป็นกองทุนที่มีลักษณะเลียนแบบดัชนีทางการเงิน กองทุน ETF จึงสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท หากหลักทรัพย์ประเภทนั้นๆ มีดัชนีที่อ้างอิงได้ ตัวอย่างเช่น...
กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้น (Equity ETF) ได้แก่
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้นโดยรวม เช่น SET50 Index, S&P500 Index, NASDAQ Composite Index ฯลฯ
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้นรายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น SET Energy & Utilities Sector Index ฯลฯ
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้นโดยรวมของแต่ละประเทศ หรือดัชนีราคาหุ้นระหว่างประเทศ เช่น MSCI World Index ฯลฯ
กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาตราสารหนี้ (Bond ETF) ได้แก่
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาพันธบัตรรัฐบาล (Treasury Bond Index)
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีร าคาหุ้นกู้บริษัทเอกชน (Corporate Bond Index) ฯลฯ
กองทุน ETF ที่อ้างอิงหลักทรัพย์หรือดัชนีอื่นๆ ได้แก่
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity ETF)
- กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาทองคำ (Gold ETF) ฯลฯ
แม้ว่ากองทุน ETF จะมีหลากหลายตามประเภทของดัชนีหลักทรัพย์ที่ใช้อ้างอิง เช่น ดัชนีราคาหุ้น ดัชนีราคาตราสารหนี้ หรือดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ฯลฯ แต่กองทุน ETF ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดก็คือ "กองทุน ETF ที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้น (Equity ETF)" เพราะว่าหุ้นเป็นหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง และเป็นที่นิยมของผู้ลงทุนในทุกประเทศ รวมถึงดัชนีที่ใช้อ้างอิงก็มีความหลากหลาย สามารถคำนวณราคาได้ง่าย
**คำเตือน** การลงทุนและการเก็งกำไรมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนและผู้เก็งกำไรควรเรียนรู้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงิน ก่อนการตัดสินใจในการลงทุนหรือการเก็งกำไรใด ๆ
สถาบันรวยอิสรภาพเปรียบเสมือนโรงเรียนคือ "มีหน้าที่ให้ความรู้และการศึกษาแก่ผู้เรียนเท่านั้น" สถาบันรวยอิสรภาพ "ไม่ได้มีหน้าที่ในการให้คำแนะนำในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์หรือตราสารทางการเงินต่างๆ" และ "ไม่ได้มีหน้าที่ขายหน่วยลงทุนหรือเป็นตัวแทนในการชักชวนให้มาระดมทุน" ในประเทศไทย ผลงานในอดีตไม่ได้เป็นการการันตีผลงานในอนาคต ผลงานการกำไรขาดทุนเป็นข้อมูลส่วนบุคคลจากความรู้และประสบการณ์ส่วนบุคคล การนำเสนอข้อมูลของสถาบันรวยอิสรภาพอยู่บนสมมุติฐานที่ถูกกำหนดขึ้นโดยสถาบันรวยอิสรภาพเท่านั้น สถาบันรวยอิสรภาพขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงวัน เวลา และสถานที่ ในการจัดการอบรมสัมมนาในทุกกรณี
Comments